ก้าวที่เก้า เห็นสกูปแล้วอ้าว นั่งดูดน้ำมะพร้าว สมกับตื่นมาทำงานตอนเช้า

     WEEK 9 Of INTERNSHIP LIFE

    สัปดาห์ที่ 9 ของการฝึกงาน ชีวิตของอินเทิร์นสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง รับชมได้พร้อมกันในตอนนี้....


    วันจันทร์จองสัปดาห์นี้ เริ่มมาแบบชิล ๆ เพราะเป็นวันหยุดต่อเนื่องจากวันหยุดยาวเข้าพรรษา ถามว่าหยุดแล้วเราทำอะไรบ้าง ก็ตอบได้เลยว่า ไม่ทำอะไรเลย งานก็ไม่ทำ บุญก็ไม่ทำ เพราะเป็นวันหยุด สมองหยุดทำงานด้วย ชัตดาวน์สมองและร่างกายตัวเองด้วยการนอนแผ่เป็นผักเปื่อยเน่า ๆ บนที่นอนจนหมดวัน


    และแล้ววันอังคารก็มาถึง เหมือนร่างกายลืมวิธีการทำงานไปหมด ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพราะวาดฝันเอาไว้ในหัวตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะได้ตื่นมา มีเวลาอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัว ออกไปทำงานอย่างสดใส 

    แต่ทุกอย่างก็พังครืน เพราะนิสัยขี้เกียจตัวเป็นขน จริงอยู่ที่ว่าตื่นมาตอนเจ็ดโมงเช้าเป๊ะ ๆ เพราะเสียงนาฬิกาปลุก แต่ก็ตื่นมาแค่นั้น เพราะสุดท้ายก็เอื้อมมือไปกดเลื่อนเวลาตั้งปลุกไปอีก

    เลื่อนไปหนึ่งครั้ง

    สองครั้ง

    และสามครั้ง...

    รู้ตัวอีกทีก็ตื่นจริง ๆ ในเสียงปลุกครั้งที่สี่ เป็นเวลาเจ็ดโมงสี่สิบห้า

    อืม...

    แต่แล้วยังไง ในเมื่อที่ทำงานใกล้กว่ามหาวิทยาลัย ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวทั้งนั้น ใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว 

    แต่ก็ลืมคิดไปอีกว่า 1 ชั่วโมงที่มั่นใจนักหนา มันหมายถึง 1 ชั่วโมงที่ไม่ต้องรอรถไฟฟ้า ขึ้นบันไดไปปุ๊บ ได้ขึ้นรถไฟปั๊บ ซึ่ง...เป็นไปไม่ได้ในเวลาที่มวลมหาประชาชนทั่วกรุงเทพก็ต้องไปทำงานทำการ ไปเรียนเหมือนกัน

    ดังนั้นวันแรกในการเข้าออฟฟิศของสัปดาห์ จึงไปถึงอย่างฉิวเฉียดในเวลาเจ็ดโมงห้าสิบ แต่พอเปิดประตูห้องเด็กฝึกงานเข้าไปก็ยังไม่มีใครสักคน จึงสำนึกได้ว่าเราไม่ใช่คนไทยคนแรกที่สายที่สุดสินะ หลังจากถึงออฟฟิศก็เริ่มเปิดคอมทำงาน

    วันอังคารค่อนข้างเป็นวันเอื่อย ๆ เพราะว่าเป็นวันที่รีเช็ครูปภาพสำหรับทำสกูป "10 คาเฟ่ย่านงามวงศ์วาน กรุงเทพ-นนทบุรี" อีกครั้ง และเริ่มทยอยทักซ้ำเพจร้านที่ยังไม่ส่งรูปภาพให้ จากนั้นก็นั่งว่าง แล้วก็กลับมาเช็ครูปภาพ แล้วก็นั่งว่าง ๆ แล้วก็ไปเช็คเว็บหลังบ้านวน ๆ ไป


    วันพุธมาถึง คนเราเรียนรู้จากความผิดพลาดได้เสมอ วันนี้ตื่นเช้ากว่าเดิม เลื่อนนาฬิกาปลุกแค่หนึ่งรอบ จากนั้นก็มีเวลาแต่งหน้า แต่งตัวออกมาทำงาน วันนี้ถึงที่ออฟฟิศไว สิ่งแรกที่ทำเหมือนทุกครั้งก็คือเช็คกล่องข้อความว่ามีร้านไหนที่ตอบกลับมาเพิ่มขึ้นไหม แล้วก็พบว่าไม่มี

    เมื่อเป็นแบบนั้น ก็เลยไล่จดเบอร์ร้านต่าง ๆ เพื่อจะโทรติดต่อโดยตรง  และสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

    ไม่คาดฝันที่ 1 เมื่อโทรไปคาเฟ่แห่งหนึ่ง พนักงานบอกให้โทรไปที่เบอร์มาร์เก็ตติ้งโดยตรง เมื่อโทรไปหามาร์เก็ตติ้ง มาร์เก็ตติ้งให้แอดไลน์ คุยรายละเอียดเพื่อติดต่อผู้บริหารร้าน และ...ขออีเมลเพื่อส่งรูป

    ไม่คาดฝันที่ 2 คือเมื่อโทรไปร้านหนึ่ง คาเฟ่กำลังปิดปรับปรุง ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเปิดให้บริการปกติมาได้ตลอด และมักจะปิดปรับปรุงร้านทุกทีที่ตัดสินใจทำสกูป เมื่อปรึกษาพี่เลี้ยงแล้วก็ได้ความว่าให้เปลี่ยนร้านใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก เพราะคาเฟ่ในย่านงามวงศ์วานมีมากมาย


    วันพฤหัสบดีเป็นวันทำข่าว ในที่นี้ตอนเช้าเริ่มวันด้วยการหาข่าวตามเพจต่าง ๆ ประมาณ 5 ข่าวส่งให้พี่เลี้ยงเลือกในแชท วันนี้มีข่าวที่เข้าตา 1 ข่าว ซึ่งเราก็ได้จัดการเขียนเนื้อหา ลงเว็บหลังบ้าน แล้วก็มาทำรูปต่อ ทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีอะไรยิบย่อยเท่าทำสกูป


    แต่วันศุกร์...ภัยพิบัติระดับโฟโต้ช็อปเกิดที่ตรงนี้

    เริ่มจากเมื่อเป็นวันหยุดยาว เราก็ต้องนั่งรถกลับต่างจังหวัด ซึ่ง ณ เวลานี้เหลือเด็กฝึกงานกองบรรณาธิการเพียงสองคน ไม่ฉันก็เธออยู่แล้วที่ต้องทำภารกิจแห่งจักรวาล 

    แล้วเราก็เป็นพวกชอบเล่นกับไฟ งานอะไรที่ไปลนก้น ชอบนัก แล้วก็ได้สมพรปาก เพราะเพื่อนอีกคนได้รับงานเร่ง และเรามีคำสั่งให้ช่วยเพื่อนทำข่าวสองข่าว

    ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกต แต่พอสังเกตแล้วก็พบว่าค่อนข้างเป็นภัยพิบัติระดับรุนแรง 

    อยู่บนรถตู้...และ กางโฟโต้ช็อปทำรูปประกอบสกูปข่าว 2 ข่าวแบบไม่มีเมาส์ พร้อมกับเขียนเนื้อหาลงเว็บหลังบ้าน และส่งเมลให้พี่ในฝ่ายกองเพื่อรีเช็คและออนแอร์ ภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมงที่นั่งรถจนถึงจุดหมาย

    

    ทุกคนเรียกเราว่าศาสดาเถอะค่ะ โฟโต้ช็อปบนรถตู้ที่ไม่มีเมาส์เราเก่งสุด ๆ 


แวะมาแปะภาพรวมสกูปเดือนกรกฎาคมฝีมือศาสดาอินเทิร์นสาว






Comments